วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เปลี่ยนค่ายไม่เปลี่ยนเบอร์
หลังจากรอคอยจนปวดตับมาหลายปีดีดัก มีทั้งเดินขบวนเรียกร้อง ทั้งยื่นหนังสือ ในที่สุดความฝันประการหนึ่งของผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือก็เป็นจริง เมื่อ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ได้ลงประกาศหลักเกณฑ์ในการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Number Portability) ในราชกิจจานุเบกษา
การคงสิทธิเลขหมาย พูดให้เข้าใจเป็นการทั่วไปก็คือการที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถเปลี่ยนเครือข่ายผู้ให้บริการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ ยังคงใช้เบอร์เดิมต่อได้จนกว่าจะเบื่อไปเอง ซึ่งเป็นประเด็นที่องค์กรด้านสิทธิผู้บริโภคเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน แต่ทางฝั่งผู้ให้บริการกลับมีทีท่าเกี่ยงงอนเสมอมา
วันที่รอคอย
“การเปลี่ยนเครือข่ายโดยไม่เปลี่ยนเลขหมาย เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมาในโลกประมาณปี 2544 และมันก็ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายตั้งแต่ปี 2544 ทันทีเช่นกันว่าเป็นสิทธิของผู้บริโภค แต่ยังไม่มีการดำเนินการ จริงๆ ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง ซึ่งต้องยอมรับว่า ผู้ให้บริการในเมืองไทยมีน้อยราย ดังนั้นจึงมีทางเลือกน้อยกว่าในต่างประเทศเยอะ
ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เล่าถึงแนวคิดในการคงสิทธิเลขหมายที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเราเร็วๆ นี้
“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น มันสามารถทำให้คนในบ้านเราเปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน เบอร์โทรศัพท์มือถือเพราะผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งเสียดายเลขหมาย เพราะมันมีต้นทุนในการเปลี่ยน เช่น ต้องเปลี่ยนนามบัตร ต้องเปลี่ยนใบเสร็จ ต้องแจ้งคู่ค้า ฯลฯ และต้องทนใช้บริการของที่เดิมอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่พอใจ แต่ถ้าเปลี่ยนได้โดยเสรี ผู้ให้บริการก็ต้องมาใส่ใจกับบริการของตนมากขึ้น หรือไม่ก็ต้องมาทำกลยุทธ์ด้านราคาซึ่งจะส่งผลดีแก่ผู้บริโภค และมีการแข่งขันเสรีอย่างแท้จริง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหม่ หลายๆ ประเทศเพิ่งเริ่มดำเนินการ อย่างประเทศมาเลเซียก็เพิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว แต่โดยภาพรวมมันเกิดขึ้นได้ยาก เพราะต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย และต้องมีหน่วยงานกลางในการจัดทำฐานข้อมูล กทช. นั้น สามารถกำหนดว่าต้องมี แต่ตัว กทช. เอง ไม่สามารถลงไปดำเนินการเองได้ เพราะเป็นขอบข่ายการดำเนินงานทางธุรกิจ”
แต่ถึงแม้จะมีกฎหมายระบุถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี 2544 แต่ที่ผ่านมาในด้านการปฏิบัติ ก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
“กฎหมายในไทยระบุไว้ตั้งแต่ปี 2544 บอกว่าต้องจัดให้มีระบบนี้ มันเป็นเหมือนกับนโยบายกว้างๆ มันเป็นสิ่งที่รัฐต้องผลักดันให้เกิด ขั้นต่อมาก็ออกเป็นประกาศ กทช. แต่ต้องมีการรับฟังความเห็น การเจรจากับผู้ประกอบการว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่จะให้บริการในลักษณะนี้ นักวิชาการว่าอย่างไร ผู้บริโภคว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการหาข้อยุติ
“อย่างประเด็นเรื่องค่าบริการ ผู้ให้บริการบอกว่าน่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียม แต่ผู้บริโภคก็บอกว่า มีหลายๆ ประเทศที่ให้ฟรี อย่างนี้ก็ต้องรับฟังทั้งสองฝ่ายและหาข้อสรุปร่วมกัน การดำเนินงานที่ผ่านมาจึงไม่รวดเร็วทันใจ ในทางธุรกิจนั้นก็ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน
“ในประเทศอื่นๆ ถ้าจะมีการย้ายเลขหมายจากบริษัท A ไปบริษัท B บริษัท B ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่าย เพราะว่าเขาได้ลูกค้า ซึ่งโดยปกติเขาต้องเสียค่าการตลาดเพื่อหาลูกค้ามาอยู่แล้ว แต่ในเมืองไทย เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่า ใครจะได้ใครจะเสียจากเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเอาต้นทุนจริงจากการดำเนินการมาหารกันดีกว่า และมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ด้วย แต่ผู้ให้บริการรายไหนจะทำโปรโมชันไม่เก็บค่าธรรมเนียมก็ย่อมได้
“ที่ผ่านมา ทาง สบท. มีการจัดเวทีสภาผู้บริโภคสัญจร ตามจังหวัดใหญ่ๆ 13 จังหวัดทั่วประเทศไทย อย่างเชียงใหม่ สระบุรี ขอนแก่น ฯลฯ เพื่อถามว่าผู้บริโภคอยากได้อะไรการเปลี่ยนค่ายโดยไม่เปลี่ยนเบอร์นั้น ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีผู้บริโภคต้องการกันมาก อยากให้เกิดขึ้นจริงเร็วๆ”
เพิ่มการแข่งขัน เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อผู้บริโภค
งานนี้คงต้องปรบมือให้ กทช. เพราะถือว่าผู้บริโภคได้ประโยชน์และมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้บริการ เนื่องจากที่ผ่านมา ถ้าผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการอาจจะด้วยสาเหตุว่าการให้บริการของเจ้าเดิมไม่ตอบสนองความต้องการหรือมีค่าบริการที่สูงเกินไป ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไปเลย แค่ผู้บริโภคทั่วๆ ไป การเปลี่ยนเบอร์มือถือแต่ละครั้งหมายถึงความยุ่งยากในชีวิต เพราะต้องเที่ยวบอกกล่าวญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ให้รู้ว่าฉันเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้ว
ยิ่งถ้าเป็นนักธุรกิจด้วยแล้ว การเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ในทางเลวร้ายสุดอาจหมายถึงทำให้การดีลข้อตกลงทางธุรกิจสะดุดหรือล่มเอาง่ายๆ เพราะเกิดอุปสรรคในการติดต่อ ทำให้ผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งต้องทนฝืนหรือไม่ก็เปิดบริการเปิดเลขหมายใหม่เพิ่ม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนเลขหมาย ดังที่เกิดขึ้นในปี 2550 ที่มีการเพิ่มเลขหมายโทรศัพท์มือถือจาก 9 หลัก เป็น 10 หลัก แทนที่เลขหมายโทรศัพท์จะเป็นทรัพยากรสาธารณะที่รัฐจัดหาไว้สำหรับบริการประชาชน กลับถูกมองเป็นทรัพย์สมบัติของเอกชนกลายๆ
การคงสิทธิเลขหมายจึงเป็นการลดต้นทุนทั้งของผู้บริโภคและของรัฐไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนั้น นี่ยังเป็นกลไกที่จะเพิ่มการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคม เพราะเมื่อผู้บริโภคมีทางเลือกและมีอิสระในการเปลี่ยนเครือข่ายผู้ให้บริการมากขึ้น ย่อมสร้างแรงกดดันให้เอกชนต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการและราคาที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มิเช่นนั้น ผู้บริโภคก็จะหันไปใช้บริการของเจ้าอื่นแทน ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้แข่งขันรายใหม่ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะอุปสรรคจากการผูกขาดเหนือสิทธิเลขหมายของผู้ให้บริการเจ้าเดิมที่อยู่ในตลาดจะทุเลาลง
โดยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครือข่ายที่ผู้ใช้บริการต้องเสีย ณ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ตัวเลขที่มีการศึกษาเบื้องต้นอยู่ที่ 300 บาทต่อครั้ง ซึ่งตามประกาศที่ออกมาได้กำหนดเวลา 30 วัน ในการให้ผู้ให้บริการเสนอแผนปฏิบัติการในการคงสิทธิเลขหมาย และอีก 3 เดือนจากนั้น สำหรับการให้บริการจริง ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้ให้บริการบางรายก็ออกมาบอกว่า ระยะเวลาที่ทาง กทช. กำหนดค่อนข้างกระชั้น และไม่น่าจะจัดการระบบเพื่อรองรับการคงสิทธิเลขหมายได้ทันภายใน 3 เดือน
เปลี่ยนใจ แต่ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์
ปณัสย์ พุ่มริ้ว กองบรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่ง เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้สึกอึดอัดกับการให้บริการของค่ายโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่งมาร่วม 7 ปี
เขากล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่นโยบายนี้เกิดขึ้นจริงๆ เสียที หลังจากที่รอมานานมาก และที่สำคัญเรื่องนี้ถือเป็นการให้โอกาสผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับตัวเองมากที่สุดด้วย ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
“ผมคิดว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะเป็นการให้อิสระเรามากขึ้นในการเลือกใช้บริการ คือผมคิดว่าหากผู้บริโภครู้สึกว่าโปรโมชันที่ตัวเองใช้อยู่ไม่ดี เขาก็มีสิทธิ์จะเลือกได้ เพราะบางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบจากค่ายมือถือนะ อย่างตอนนี้ผมใช้มือถือของค่ายหนึ่ง ซึ่งเก็บค่าบริการแพงมาก
“อย่างเมื่อก่อน ผมต้องจ่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไป 2 บาท หลังจากนั้นนาทีละบาท และแม้ว่าเขาจะลดราคามาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ เมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ ที่มีระบบเหมาจ่าย หรือโปรโมชันให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีความคิดที่เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกัน เนื่องจากรู้สึกทนกับค่าบริการไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่เปลี่ยนดีกว่า เนื่องจากรู้สึกเสียดายเบอร์ เพราะฉะนั้นเมื่อนโยบายนี้ออกมา ก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
“ผมเคยคิดจะเปลี่ยนเบอร์นะ เพราะไม่ว่าจะย้ายไปโปรฯ ไหนมันก็ยังแพงอยู่ดี แต่ด้วยความที่ติดเบอร์เดิม คือแจกให้ใครต่อใครเยอะแยะมากมาย แล้วบางคนโอกาสที่เราจะคุยบ่อยๆ ก็ไม่มี หากเปลี่ยนเบอร์ไปก็อาจจะติดต่อไม่ได้เลย พอกลับมาคิดอย่างนี้ก็รู้สึกเสียดายไม่เปลี่ยนดีกว่า
“และถึงบางค่ายเขาจะมีบริการ SMS แจ้งเบอร์ใหม่ให้แก่คนที่เรามีเบอร์อยู่ในเครื่อง แต่พอกลับมาคิดถึงตัวเอง เวลาที่คนอื่นเปลี่ยนเบอร์ แล้วส่งข้อความแบบนี้มา ความรู้สึกของผมก็คือขี้เกียจ ยุ่งยาก ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถ้าจะใช้เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนก็ได้ พอถึงคราวที่เราเปลี่ยนเบอร์บ้าง ผมก็เลยมานั่งคิดว่าคงมีหลายคนที่ไม่ได้เซฟเบอร์ใหม่ของผม ซึ่งตรงนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเลย และยิ่งพอได้รู้ว่าจะมีกฎหมายนี้ออกมา ก็เลยตัดสินใจรอดีกว่า”
และเมื่อถามถึงเรื่องการเปลี่ยนค่าย แล้วอาจจะกระทบต่อสัญญาณโทรศัพท์ ปณัสย์กล่าวว่า สำหรับเขาเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องรอง และมองว่าปัจจุบันนี้ค่ายมือถือต่างๆ ก็พยายามจะขยายสัญญาณออกไปครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้นอยู่แล้ว
“สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องรอง เพราะถ้าจะว่ากันจริงๆ โอกาสที่เราจะไปอยู่ที่ที่ไม่มีสัญญาณมันน้อยมากเลย ถ้าไม่ใช่ภูเขาหรือป่าลึกๆ เพราะเดี๋ยวนี้ผมมองว่าสัญญาณโทรศัพท์มันครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว และหากมีปัญหาแบบนั้นจริงๆ เราก็มีวิธีแก้ปัญหาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือยืมเพื่อนก็ได้”
สุดท้ายนี้ ปณัสย์กล่าวยืนยันว่า ทันทีที่ระบบการย้ายค่ายใช้ได้จริงเมื่อใด เขาก็จะย้ายระบบทันทีเช่นกัน แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มก็ตาม เพราะเมื่อเทียบในระยะยาวแล้ว ยังไงการเปลี่ยนผู้ให้บริการก็คุ้มกว่าอยู่ดี
ที่มา : http://www.manager.co.th/
การคงสิทธิเลขหมาย พูดให้เข้าใจเป็นการทั่วไปก็คือการที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถเปลี่ยนเครือข่ายผู้ให้บริการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ ยังคงใช้เบอร์เดิมต่อได้จนกว่าจะเบื่อไปเอง ซึ่งเป็นประเด็นที่องค์กรด้านสิทธิผู้บริโภคเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน แต่ทางฝั่งผู้ให้บริการกลับมีทีท่าเกี่ยงงอนเสมอมา
วันที่รอคอย
“การเปลี่ยนเครือข่ายโดยไม่เปลี่ยนเลขหมาย เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมาในโลกประมาณปี 2544 และมันก็ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายตั้งแต่ปี 2544 ทันทีเช่นกันว่าเป็นสิทธิของผู้บริโภค แต่ยังไม่มีการดำเนินการ จริงๆ ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง ซึ่งต้องยอมรับว่า ผู้ให้บริการในเมืองไทยมีน้อยราย ดังนั้นจึงมีทางเลือกน้อยกว่าในต่างประเทศเยอะ
ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เล่าถึงแนวคิดในการคงสิทธิเลขหมายที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเราเร็วๆ นี้
“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น มันสามารถทำให้คนในบ้านเราเปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน เบอร์โทรศัพท์มือถือเพราะผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งเสียดายเลขหมาย เพราะมันมีต้นทุนในการเปลี่ยน เช่น ต้องเปลี่ยนนามบัตร ต้องเปลี่ยนใบเสร็จ ต้องแจ้งคู่ค้า ฯลฯ และต้องทนใช้บริการของที่เดิมอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่พอใจ แต่ถ้าเปลี่ยนได้โดยเสรี ผู้ให้บริการก็ต้องมาใส่ใจกับบริการของตนมากขึ้น หรือไม่ก็ต้องมาทำกลยุทธ์ด้านราคาซึ่งจะส่งผลดีแก่ผู้บริโภค และมีการแข่งขันเสรีอย่างแท้จริง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหม่ หลายๆ ประเทศเพิ่งเริ่มดำเนินการ อย่างประเทศมาเลเซียก็เพิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว แต่โดยภาพรวมมันเกิดขึ้นได้ยาก เพราะต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย และต้องมีหน่วยงานกลางในการจัดทำฐานข้อมูล กทช. นั้น สามารถกำหนดว่าต้องมี แต่ตัว กทช. เอง ไม่สามารถลงไปดำเนินการเองได้ เพราะเป็นขอบข่ายการดำเนินงานทางธุรกิจ”
แต่ถึงแม้จะมีกฎหมายระบุถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี 2544 แต่ที่ผ่านมาในด้านการปฏิบัติ ก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
“กฎหมายในไทยระบุไว้ตั้งแต่ปี 2544 บอกว่าต้องจัดให้มีระบบนี้ มันเป็นเหมือนกับนโยบายกว้างๆ มันเป็นสิ่งที่รัฐต้องผลักดันให้เกิด ขั้นต่อมาก็ออกเป็นประกาศ กทช. แต่ต้องมีการรับฟังความเห็น การเจรจากับผู้ประกอบการว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่จะให้บริการในลักษณะนี้ นักวิชาการว่าอย่างไร ผู้บริโภคว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการหาข้อยุติ
“อย่างประเด็นเรื่องค่าบริการ ผู้ให้บริการบอกว่าน่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียม แต่ผู้บริโภคก็บอกว่า มีหลายๆ ประเทศที่ให้ฟรี อย่างนี้ก็ต้องรับฟังทั้งสองฝ่ายและหาข้อสรุปร่วมกัน การดำเนินงานที่ผ่านมาจึงไม่รวดเร็วทันใจ ในทางธุรกิจนั้นก็ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน
“ในประเทศอื่นๆ ถ้าจะมีการย้ายเลขหมายจากบริษัท A ไปบริษัท B บริษัท B ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่าย เพราะว่าเขาได้ลูกค้า ซึ่งโดยปกติเขาต้องเสียค่าการตลาดเพื่อหาลูกค้ามาอยู่แล้ว แต่ในเมืองไทย เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่า ใครจะได้ใครจะเสียจากเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเอาต้นทุนจริงจากการดำเนินการมาหารกันดีกว่า และมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ด้วย แต่ผู้ให้บริการรายไหนจะทำโปรโมชันไม่เก็บค่าธรรมเนียมก็ย่อมได้
“ที่ผ่านมา ทาง สบท. มีการจัดเวทีสภาผู้บริโภคสัญจร ตามจังหวัดใหญ่ๆ 13 จังหวัดทั่วประเทศไทย อย่างเชียงใหม่ สระบุรี ขอนแก่น ฯลฯ เพื่อถามว่าผู้บริโภคอยากได้อะไรการเปลี่ยนค่ายโดยไม่เปลี่ยนเบอร์นั้น ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีผู้บริโภคต้องการกันมาก อยากให้เกิดขึ้นจริงเร็วๆ”
เพิ่มการแข่งขัน เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อผู้บริโภค
งานนี้คงต้องปรบมือให้ กทช. เพราะถือว่าผู้บริโภคได้ประโยชน์และมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้บริการ เนื่องจากที่ผ่านมา ถ้าผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการอาจจะด้วยสาเหตุว่าการให้บริการของเจ้าเดิมไม่ตอบสนองความต้องการหรือมีค่าบริการที่สูงเกินไป ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไปเลย แค่ผู้บริโภคทั่วๆ ไป การเปลี่ยนเบอร์มือถือแต่ละครั้งหมายถึงความยุ่งยากในชีวิต เพราะต้องเที่ยวบอกกล่าวญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ให้รู้ว่าฉันเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้ว
ยิ่งถ้าเป็นนักธุรกิจด้วยแล้ว การเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ในทางเลวร้ายสุดอาจหมายถึงทำให้การดีลข้อตกลงทางธุรกิจสะดุดหรือล่มเอาง่ายๆ เพราะเกิดอุปสรรคในการติดต่อ ทำให้ผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งต้องทนฝืนหรือไม่ก็เปิดบริการเปิดเลขหมายใหม่เพิ่ม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนเลขหมาย ดังที่เกิดขึ้นในปี 2550 ที่มีการเพิ่มเลขหมายโทรศัพท์มือถือจาก 9 หลัก เป็น 10 หลัก แทนที่เลขหมายโทรศัพท์จะเป็นทรัพยากรสาธารณะที่รัฐจัดหาไว้สำหรับบริการประชาชน กลับถูกมองเป็นทรัพย์สมบัติของเอกชนกลายๆ
การคงสิทธิเลขหมายจึงเป็นการลดต้นทุนทั้งของผู้บริโภคและของรัฐไปพร้อมๆ กัน
นอกจากนั้น นี่ยังเป็นกลไกที่จะเพิ่มการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคม เพราะเมื่อผู้บริโภคมีทางเลือกและมีอิสระในการเปลี่ยนเครือข่ายผู้ให้บริการมากขึ้น ย่อมสร้างแรงกดดันให้เอกชนต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการและราคาที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มิเช่นนั้น ผู้บริโภคก็จะหันไปใช้บริการของเจ้าอื่นแทน ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้แข่งขันรายใหม่ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะอุปสรรคจากการผูกขาดเหนือสิทธิเลขหมายของผู้ให้บริการเจ้าเดิมที่อยู่ในตลาดจะทุเลาลง
โดยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครือข่ายที่ผู้ใช้บริการต้องเสีย ณ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ตัวเลขที่มีการศึกษาเบื้องต้นอยู่ที่ 300 บาทต่อครั้ง ซึ่งตามประกาศที่ออกมาได้กำหนดเวลา 30 วัน ในการให้ผู้ให้บริการเสนอแผนปฏิบัติการในการคงสิทธิเลขหมาย และอีก 3 เดือนจากนั้น สำหรับการให้บริการจริง ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้ให้บริการบางรายก็ออกมาบอกว่า ระยะเวลาที่ทาง กทช. กำหนดค่อนข้างกระชั้น และไม่น่าจะจัดการระบบเพื่อรองรับการคงสิทธิเลขหมายได้ทันภายใน 3 เดือน
เปลี่ยนใจ แต่ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์
ปณัสย์ พุ่มริ้ว กองบรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่ง เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้สึกอึดอัดกับการให้บริการของค่ายโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่งมาร่วม 7 ปี
เขากล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่นโยบายนี้เกิดขึ้นจริงๆ เสียที หลังจากที่รอมานานมาก และที่สำคัญเรื่องนี้ถือเป็นการให้โอกาสผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับตัวเองมากที่สุดด้วย ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
“ผมคิดว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะเป็นการให้อิสระเรามากขึ้นในการเลือกใช้บริการ คือผมคิดว่าหากผู้บริโภครู้สึกว่าโปรโมชันที่ตัวเองใช้อยู่ไม่ดี เขาก็มีสิทธิ์จะเลือกได้ เพราะบางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบจากค่ายมือถือนะ อย่างตอนนี้ผมใช้มือถือของค่ายหนึ่ง ซึ่งเก็บค่าบริการแพงมาก
“อย่างเมื่อก่อน ผมต้องจ่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไป 2 บาท หลังจากนั้นนาทีละบาท และแม้ว่าเขาจะลดราคามาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ เมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ ที่มีระบบเหมาจ่าย หรือโปรโมชันให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีความคิดที่เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกัน เนื่องจากรู้สึกทนกับค่าบริการไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่เปลี่ยนดีกว่า เนื่องจากรู้สึกเสียดายเบอร์ เพราะฉะนั้นเมื่อนโยบายนี้ออกมา ก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
“ผมเคยคิดจะเปลี่ยนเบอร์นะ เพราะไม่ว่าจะย้ายไปโปรฯ ไหนมันก็ยังแพงอยู่ดี แต่ด้วยความที่ติดเบอร์เดิม คือแจกให้ใครต่อใครเยอะแยะมากมาย แล้วบางคนโอกาสที่เราจะคุยบ่อยๆ ก็ไม่มี หากเปลี่ยนเบอร์ไปก็อาจจะติดต่อไม่ได้เลย พอกลับมาคิดอย่างนี้ก็รู้สึกเสียดายไม่เปลี่ยนดีกว่า
“และถึงบางค่ายเขาจะมีบริการ SMS แจ้งเบอร์ใหม่ให้แก่คนที่เรามีเบอร์อยู่ในเครื่อง แต่พอกลับมาคิดถึงตัวเอง เวลาที่คนอื่นเปลี่ยนเบอร์ แล้วส่งข้อความแบบนี้มา ความรู้สึกของผมก็คือขี้เกียจ ยุ่งยาก ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถ้าจะใช้เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนก็ได้ พอถึงคราวที่เราเปลี่ยนเบอร์บ้าง ผมก็เลยมานั่งคิดว่าคงมีหลายคนที่ไม่ได้เซฟเบอร์ใหม่ของผม ซึ่งตรงนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเลย และยิ่งพอได้รู้ว่าจะมีกฎหมายนี้ออกมา ก็เลยตัดสินใจรอดีกว่า”
และเมื่อถามถึงเรื่องการเปลี่ยนค่าย แล้วอาจจะกระทบต่อสัญญาณโทรศัพท์ ปณัสย์กล่าวว่า สำหรับเขาเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องรอง และมองว่าปัจจุบันนี้ค่ายมือถือต่างๆ ก็พยายามจะขยายสัญญาณออกไปครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้นอยู่แล้ว
“สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องรอง เพราะถ้าจะว่ากันจริงๆ โอกาสที่เราจะไปอยู่ที่ที่ไม่มีสัญญาณมันน้อยมากเลย ถ้าไม่ใช่ภูเขาหรือป่าลึกๆ เพราะเดี๋ยวนี้ผมมองว่าสัญญาณโทรศัพท์มันครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว และหากมีปัญหาแบบนั้นจริงๆ เราก็มีวิธีแก้ปัญหาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือยืมเพื่อนก็ได้”
สุดท้ายนี้ ปณัสย์กล่าวยืนยันว่า ทันทีที่ระบบการย้ายค่ายใช้ได้จริงเมื่อใด เขาก็จะย้ายระบบทันทีเช่นกัน แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มก็ตาม เพราะเมื่อเทียบในระยะยาวแล้ว ยังไงการเปลี่ยนผู้ให้บริการก็คุ้มกว่าอยู่ดี
ที่มา : http://www.manager.co.th/
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554
All New CBR 250R
CBR250r รถสปอร์ตสายพันธุ์ล่าสุดในตระกูล CBR อันเลื่องชื่อ เปิดตัวดรั้งแรกที่เมืองไทยกับภาพลักษณ์ที่โดดเด่นพร้อมเทคโนโลยีอันเหนือชั้นทั้งภาพนอกและภาพใน CBR250R คือสปอร์ตสไตล์ทั่วริ่งที่ช่วยเปิดมิติใหม่แห่งการขับขี่ด้วยสมรรถนะที่เร้าใจกับพิกัดใหม่ 250 ซีซี ผลิตที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก มาตรฐานระดับโลก ในฐานะโมเดลระดับสากลที่ส่งออกไปหลายประเทศ หลากทวีป นั่นเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า CBR250R ใหม่นี้ "ไม่ธรรมดา" ดังที่ HONDA ได้บอกกล่าวเอาไว้เกี่ยวกับรถรุ่นนี้ว่า
To Know The Unknown แล้วคุณพร้อมหรือยังกับการเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน....
To Know The Unknown แล้วคุณพร้อมหรือยังกับการเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน....
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554
Single ประวัติศาสตร์จาก Coke และ Maroon 5
Single ประวัติศาสตร์จาก Coke และ Maroon 5
ที่แต่งตากแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นทั่วโลกในเวลา 24 ชั่วโมง (24 Hours. One Band. A Brand New Song Inspire By You)
ทุก 1 ดาว์โหลด Coke บริจาค 5 บาท ให้มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ
ตามแนวคิด Live Positively
ร่วมกันทำสิ่ง DD เพื่อเราเพื่ิอโลก
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554
32nd Bangkok International Motorshow
Bangkok International Motorshow
Motor Show ปีนี้ย้ายที่จาก BITEC บางนา
มาที่ Challenger Hall IMPACT เมืองทองทานี
ถ้าว่างก็เชิญไปชมรถใหม่ๆ นวตกรรมใหม่ๆ
มีรถรับส่งที่ BTS หมอชิตครับ
บัตรราคา 100 บาท ซื้อได้ที่หน้างาน
เหลือเวลาอีก 3 วันเท่านั้นนะครับ
กิจกรรมตามนี้เลยครับ
วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. 54
08:00 - 22:00 น. - งานเลี้ยงครบรอบ 16 ปี นิตยสารออฟโรด
ริมทะเลสาบเมืองทองธานี
10:00 - 20:00 น. - โชว์รถ XO-Autosalon ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 18:00 น. - การแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์มอเตอร์โชว์ 2011
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถจากชมรมมิตซูบิชิ คลับ
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคยุโรป
ลานกิจกรรมมอเตอร์ไซค์
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
15:00 - 22:00 น. - โชว์รถจากชมรม AE Thailand ลาน Loading ด้านหลัง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Honda เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. 54
07:00 - 21:00 น. - โชว์รถมินิ & มินิแฟมิลี่ แรลลี่
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 18:00 น. - การแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์มอเตอร์โชว์ 2011
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถมอเตอร์ไซค์ Mini และมอเตอร์ไซค์แต่ง Dress Up
ลานกิจกรรมมอเตอร์ไซค์
13:00 - 21:00 น. - โชว์รถ Toyota Insty Thailand
ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Suzuki
เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
วันจันทร์ที่ 4 เม.ย. 54
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Suburu ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Volvo Club ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมแข่งขันสตั๊นชิงแชมป์ประเทศไทย
ลาน Loading ด้านหลัง
วันอังคารที่ 5 เม.ย. 54
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Mazda 2,3 ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Mazda MX-5 ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Yamaha เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
Motor Show ปีนี้ย้ายที่จาก BITEC บางนา
มาที่ Challenger Hall IMPACT เมืองทองทานี
ถ้าว่างก็เชิญไปชมรถใหม่ๆ นวตกรรมใหม่ๆ
มีรถรับส่งที่ BTS หมอชิตครับ
บัตรราคา 100 บาท ซื้อได้ที่หน้างาน
เหลือเวลาอีก 3 วันเท่านั้นนะครับ
กิจกรรมตามนี้เลยครับ
วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. 54
08:00 - 22:00 น. - งานเลี้ยงครบรอบ 16 ปี นิตยสารออฟโรด
ริมทะเลสาบเมืองทองธานี
10:00 - 20:00 น. - โชว์รถ XO-Autosalon ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 18:00 น. - การแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์มอเตอร์โชว์ 2011
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถจากชมรมมิตซูบิชิ คลับ
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคยุโรป
ลานกิจกรรมมอเตอร์ไซค์
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
15:00 - 22:00 น. - โชว์รถจากชมรม AE Thailand ลาน Loading ด้านหลัง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Honda เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. 54
07:00 - 21:00 น. - โชว์รถมินิ & มินิแฟมิลี่ แรลลี่
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 18:00 น. - การแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์มอเตอร์โชว์ 2011
ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 21:00 น. - โชว์รถมอเตอร์ไซค์ Mini และมอเตอร์ไซค์แต่ง Dress Up
ลานกิจกรรมมอเตอร์ไซค์
13:00 - 21:00 น. - โชว์รถ Toyota Insty Thailand
ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Suzuki
เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
วันจันทร์ที่ 4 เม.ย. 54
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Suburu ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Volvo Club ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมแข่งขันสตั๊นชิงแชมป์ประเทศไทย
ลาน Loading ด้านหลัง
วันอังคารที่ 5 เม.ย. 54
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Mazda 2,3 ลาน Loading ด้านหลัง
12:00 - 20:00 น. - โชว์รถ Mazda MX-5 ลาน Loading ด้านหลัง
13:00 - 22:00 น. - โชว์รถเครื่องเสียง ลานกิจกรรมเครื่องเสียง
18:00 - 21:00 น. - กิจกรรมโชว์พิเศษจาก Yamaha เวทีคอนเสิร์ตหลังชาเลนเจอร์ 1
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554
Bangkok International Book Fair 2011
การอ่านหนังสือเป็นวิถีสำคัญยิ่งที่จะเข้าสู่โลกกว้างแห่งสรรพวิทยา ทำให้เกิดปัญญามาประยุกต์ใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ การเป็นสังคมการอ่านจึงเป็นพื้นฐานสำคัญเกื้อหนุนความเจริญของประเทศ ในสังคมปัจจุบันในยุคโลกาภิวัตน์ ประชาคมโลกอยู่ในสภาพเหมือนไร้พรมแดน ข้อมูลความรู้ที่ได้จากการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วโลก กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราก้าวทันความเปลี่ยนแปลงทั้งปวง
กระทรวงศึกษาธิการในนามภาครัฐ และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยในนามภาค เอกชน พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่าง ๆ ต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ จึงได้กำหนดจัดงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 39 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 9 (Bangkok International Book Fair 2011)”
25 มีนาคม ถึง 6 เมษยน 2554
25 มีนาคม ถึง 6 เมษยน 2554
วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554
รับมือแผนดินไหว
เมื่อเกิดแผ่นดินไหว คุณควรตั้งสติไว้ให้ดี อย่าตกใจ และพยายามปลอบคนข้างเคียงให้อยู่ในความสงบ
ส่วนควรจะทำตัวอย่างไรให้เหมาะสม ก็แล้วแต่ว่าคุณอยู่ที่ไหน เช่น
• ถ้าคุณอยู่ในอาคาร : ให้ระวังสิ่งของที่อยู่สูงจะตกใส่ศีรษะ เช่น โคมไฟ ชิ้นส่วนของอาคาร เศษอิฐเศษปูนที่แตกออกจากเพดาน และระวังตูหนังสือ ตู้โชว์ ชั้นวางของ โต๊ะ ทีวี ตู้เย็น และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จะเลื่อนมาชนหรือล้มทับ คุณควรพยายามอยู่ห่างหน้าต่าง ประตู และกระจก
ถ้าการสั่นไหวรุนแรง ก็ควรหลบอยู่ใต้โต๊ะ ใต้เตียง หรือมุมห้อง ซึ่งห่างจากหน้าต่าง อย่าวิ่งออกมานอกอาคาร
• ถ้าคุณอยู่ในอาคารสูง : ให้หลบอยู่ใต้โต๊ะ อย่าวิ่งลงทางออกฉุกเฉิน เพราะบันไดอาจจะหักไปแล้ว หรือมีคนจำนวนมากแย่งกันลง
ที่สำคัญคืออย่าใช้ลิฟต์ เพราะลิฟต์อาจจะเสีย เนื่องจากไฟฟ้าดับ หรืออุปกรณ์บางส่วนได้รับความเสียหาย
• ถ้าคุณอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีคนจำนวนมาก : อย่าแย่งกันออกจากอาคาร เพราะคนจำนวนมากจะมีความคิดอย่างเดียวกัน คือ รีบหนีออกจากอาคาร
แต่หากเกิดไฟไหม้ หรืออาคารพัง ให้หาทางออกที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด
• ถ้าคุณอยู่นอกอาคาร : ควรยู่ในที่โล่งแจ้ง ห่างจากอาคารสูง กำแพง เสาไฟฟ้า และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่อาจจะโค่นล้มลงมาได้ อย่าวิ่งไปตามถนน
แต่ถ้าคุณอยู่ในรถ ให้หยุดรถในที่ปลอดภัย และอยู่ภายในรถจนกระทั่งการสั่นสะเทือนหยุดลง
อย่าจอดรถใต้สะพาน ต้นไม้ เสาไฟ หรืออะไรก็ตามที่อาจล้มทับใส่รถของคุณ
• ถ้าคุณอยู่ในเขตภูเขา : ให้ระวังก้อนหินและดินถล่ม รวมทั้งต้นไม้ซึ่งอาจล้มลงมาทำอันตรายได้
• ถ้าคุณอยู่ใกล้ชายทะเล และแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในทะเล : ให้ออกจากชายฝั่ง เพราะอาจมีคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าหาฝั่งได้
คุณควรทำตัวอย่างไร หลังเกิดแผ่นดินไหว?
หลังจากนาทีวิกฤติแล้ว คุณควรปฏิบัติตนดังนี้
• ออกสำรวจโดยรอบ เพื่อสำรวจดูว่ามีใครได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่ ถ้ามีคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็อย่ารีบเคลื่อนย้าย (นอกจากจำเป็นต้องหนีภัยฉุกเฉิน)
• ระวังสิ่งต่อไปนี้เป็นพิเศษ ได้แก่
เศษวัสดุมีคม : คุณควรสวมถุงมือ หรือรองเท้าเพื่อป้องกันเศษวัสดุมีคมต่างๆ เช่น เศษแก้ว
สายไฟ : อยู่ห่างจากบริเวณที่สายไฟขาดและวัตถุที่สายไฟพาดถึง
ท่อแก๊ส : หากแก๊สรั่ว ก็ต้องปิดถังแก๊ส และอย่าจุดไฟจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว
สารเคมี : หากบริเวณไหนมีสารเคมี (เช่น ยาฆ่าแมลง) หกเลอะเทอะอยู่ ก็ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย
อาหาร & เครื่องดื่ม : หากไม่มีฝาปิดมิดชิด ก็ไม่ควรนำมารับประทาน เนื่องจากอาจมีเศษวัสดุตกลงไปปะปนได้
• อย่าเป็น ‘ไทยมุง’ หรือเข้าไปในอาคารหรือบริเวณที่มีความเสียหายมาก ๆ
• เตรียมตัวเตรียมใจกับแผ่นดินไหวตาม (aftershock - อาฟเตอร์ช็อค) ที่อาจเกิดขึ้นอีกหลังจากนั้น
• อย่าปล่อยข่าวลือซ้ำเติมเหตุการณ์ (เช่น ข่าวลือที่ว่าเขื่อนแตก ดังเช่นที่เคยปรากฏมาแล้ว)
ที่มา : นหนังสือ รับมือธรณีพิบัติภัย เขียนโดย บัญชา ธนบุญสมบัติ, สนพ. ร่วมด้วยช่วยกัน
กูเกิลแอนดรอยด์ (Google Android) คืออะไร ?
- กูเกิลแอนดรอยด์ (Google Android) คือ ระบบปฏิบัติการ ที่เป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มบนมือถือ สร้างขึ้นมาจากระบบปฎิบัติการลีนุกซ์(Powered by the Linux kernel) พัฒนาขึ้นมาโดยกูเกิล กูเกิลแอนดร อยด์นั้นได้เปิดให้นักพัฒนา สามารถเข้ามาจัดการเขียนโค๊ตต่าง ๆ ได้ด้วยภาษาจาวา และเขียนควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางจาวาไลบลารี่ที่ทางกูเกิลพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ (Google-developed Java libraries) โปรแกรมต่างๆ ที่รันบนกูเกิลแอนดรอย์สามารถเขียนได้ด้วยภาษาซี(C) และภาษาอื่น ส่วนการพัฒนาผ่านการคอมไพล์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ ARM Native Code(32bit) นั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางกูเกิลแต่อย่างได
- กูเกิลแอนดรอยด์ ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทางกูเกิลได้ประกาศก่อตั้ง Open Handset Alliance กลุ่มบริษัทฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสาร 48 แห่ง และได้ออกมาให้ยนโฉมตัวจริงกันในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ลิขสิทธิ์ของ กูเกิลแอนดรอยด์นั้นจะอยู่ในลักษณะของฟรีซอฟต์แวร์และโอ เพ็นซอร์จ โดยอยู่ภายใต้สิทธิบัตรของ ครีเอทีพ คอมมอนส์ แอทรีบิว 2.5 ซึ่งทำให้ผู้ใช้นั้นสามารถดาวโหลดซอฟต์แวร์ของกูเกิลแอนดรอยด์ไป ใช้ได้ฟรี และยังสามารถนำซอฟต์แวร์ที่ได้ไปแชร์แจกต่อได้ แต่ไม่อนุญาตให้แก้ใขโดยการนำเอาชื่อผู้เขียนซอฟต์แวร์ หรือรายการสิทธิบัตรของซอฟต์แวร์นั้นออกตัวโปรแกรม
- Android คือ ระบบปฏิบัติการ (OS) หรือแพลตฟอร์ม ที่จะใช้ควบคุมการทำงานบนอุปกรณ์อีเล็คทรอนิกส์ต่างๆ สำหรับโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์พกพา โดยมี กูเกิล อิงก์, ที-โมบาย, เอชทีซี, ควอลคอมม์, โมโตโรลา และบริษัทชั้นนำอีกมากมายร่วมพัฒนาโปรเจ็กต์ แอนดรอยด์ ผ่านกลุ่มพันธมิตรเครื่องมือสื่อสารระบบเปิด (Open Handset Alliance) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรชั้นนำระดับนานาชาติด้านเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อ สารเคลื่อนที่ ซึ่ง Android ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ ไลบรารี เฟรมเวิร์ค และซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่จำเป็นในการพัฒนา ซึ่งเทียบเท่ากับ Windows Moble, Palm OS, Symbian, OpenMoko และ Maemo ของโนเกีย โดยใช้องค์ประกอบที่เป็นโอเพนซอร์สหลายอย่าง เช่น Linux Kernel, SSL, OpenGL, FreeType, SQLite, WebKit และเขียนไลบรารีเฟรมเวิร์คของตัวเองเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดจะโอเพนซอร์ส ใช้ (Apache License) ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายในการส่งเสริมนวัตกรรมบนเครื่องมือสื่อสาร เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่าแพลตฟอร์มโมบายทั่วไปที่มีอยู่ใน ปัจจุบัน ทั้งนี้ การนำเสนอมิติใหม่ของแพลตฟอร์มระบบเปิดให้แก่นักพัฒนาจะทำช่วยให้กลุ่มคน เหล่านี้ทำงานร่วมกันได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย แอนดรอยด์ จะช่วยเร่งและผลักดันบริการระบบสื่อสารรูปแบบใหม่ไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างที่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ที่มา : http://www.thaiandroid.org
วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554
ถ้าในฝันของเรามี... งู หมายความว่า...
ถ้าฝันเห็นงูตัวใหญ่มากตัวเดียว และมันอยู่ของมันเฉยๆ หรือแค่แลบลิ้นแผล็บๆ.... แสดงว่ามีคนกำลังแอบปิ๊งเราแล้วล่ะนะ ลองมองดูรอบๆ ตัวได้เลย
ถ้าเราฝันเห็นงูตัวเล็ก แสดงว่ามีคนมาแอบชอบเราแบบเงียบๆ , หรือแอบปลื้มเรานิดๆ
ถ้าเห็นงูตัวใหญ่มาก (เท่าเสาบ้าน) แล้วมันเลื้อยไล่เรา เราก็วิ่งหนีป่าราบเลย เหนื่อยแทบตาย.... แสดงว่ามีคนมาแอบชอบเรามาก หวังจะตกร่องปล่องชิ้นกะเรา แต่เราไม่ได้ชอบเขาอ่ะนะ...
ถ้าเห็นงูมารัด.... แสดงว่า ช่วงนี้เรากำลัง In Love กะแฟนอยู่
ถ้าเห็นงูมากัด.... แสดงว่ามีคนที่ชอบเรากำลังวางแผนหวังจะ Fun เรา (ระวังตัวน้าาา)
ถ้าฝันเห็นงูหลายๆ ตัว ยั้วเยี้ยะไปหมด.... แสดงว่าแฟนเรากำลังนอกใจเราแล้วล่ะ
หรือถ้าไม่ใช่ก็แสดงว่าช่วงนี้เรากำลังมีอารมณ์อย่างว่าอยู่บ่อยๆ (หันไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ดีก่านะ... อย่าฟุ้งซ่าน)
อ่านแล้วอย่าคิดมากนาาาาา.......... เชื่อหรือไม่เชื่อก็พิสูจน์ดู
.
ถ้าเราฝันเห็นงูตัวเล็ก แสดงว่ามีคนมาแอบชอบเราแบบเงียบๆ , หรือแอบปลื้มเรานิดๆ
ถ้าเห็นงูตัวใหญ่มาก (เท่าเสาบ้าน) แล้วมันเลื้อยไล่เรา เราก็วิ่งหนีป่าราบเลย เหนื่อยแทบตาย.... แสดงว่ามีคนมาแอบชอบเรามาก หวังจะตกร่องปล่องชิ้นกะเรา แต่เราไม่ได้ชอบเขาอ่ะนะ...
ถ้าเห็นงูมารัด.... แสดงว่า ช่วงนี้เรากำลัง In Love กะแฟนอยู่
ถ้าเห็นงูมากัด.... แสดงว่ามีคนที่ชอบเรากำลังวางแผนหวังจะ Fun เรา (ระวังตัวน้าาา)
ถ้าฝันเห็นงูหลายๆ ตัว ยั้วเยี้ยะไปหมด.... แสดงว่าแฟนเรากำลังนอกใจเราแล้วล่ะ
หรือถ้าไม่ใช่ก็แสดงว่าช่วงนี้เรากำลังมีอารมณ์อย่างว่าอยู่บ่อยๆ (หันไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ดีก่านะ... อย่าฟุ้งซ่าน)
อ่านแล้วอย่าคิดมากนาาาาา.......... เชื่อหรือไม่เชื่อก็พิสูจน์ดู
.
ที่มา:
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)